เหตุผลที่ธุรกิจของคุณควรใช้รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift)

รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) ทำงานได้มากกว่าแรงงานคน
รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) สามารถยกของที่หนักเกินกว่ากำลังคนจะยกได้ และสามารถขนย้ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่ได้รวดเร็ว การใช้ Forklift จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้ธุรกิจราบรื่น ไม่สะดุด

รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างกำลังคนมาทำงาน
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการใช้รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) พบว่าต้องใช้กำลังคนจำนวนมาก ซึ่งการจ้างคนงานเพิ่ม ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสูง การใช้ Forklift เข้ามาช่วย ทำให้ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานจำนวนมาก ลดปัญหาด้านการบริหาร อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนในการผลิต

รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) สร้างความปลอดภัยที่มากกว่า
การทำงานในสายการผลิต การเกษตร คลังสินค้า ย่อมมีโอกาสเกิดความผิดพลาดจากการทำงานได้ เพราะวัสดุสินค้าเป็นของมีน้ำหนัก มีโอกาสผิดพลาดในแง่ของการเกิดความบาดเจ็บแก่พนักงาน หรือในแง่ของอุบัติเหตุที่ทำให้ตัวสินค้าเสียหายในการขนส่งด้วยแรงงานคน (Human Error) การใช้ Forklift เข้ามาช่วย ทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น สามารถเข้าถึงที่เก็บสินค้าที่สูงได้โดยที่ไม่ต้องปีนขึ้นไปเองให้เสี่ยงอันตราย

รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) ไม่ใช่ต้นทุนแต่เป็นสินทรัพย์
การจ้างพนักงานเพิ่ม ต้องมีค่าใช้จ่ายในการจ้างงานซึ่งถือเป็นต้นทุนแรงงานที่ต้องรวมกับทุนสินค้า แต่ว่ารถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) นั้นไม่ถือเป็นต้นทุน แต่เป็นทรัพย์สินของธุรกิจ ที่เมื่อหมดความจำเป็นในการใช้งาน สามารถนำไปขายต่อเป็นรถ Forklift มือสอง คืนต้นทุนส่วนต่างให้กับคุณได้

รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) ช่วยให้ก้าวนำคู่แข่งในเวทีตลาดโลก
แน่นอนว่าการมีเครื่องมือที่มีศักยภาพสูง เช่น รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) อยู่ในมือย่อมทำให้คุณมีข้อได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องกำลังการผลิต คุณภาพงานที่คงที่ โอกาสเกิดความผิดพลาดเสียหายน้อยกว่า ใช้เวลาทำงานน้อยกว่า ศักยภาพเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณ แซงหน้าธุรกิจอื่นๆ และพร้อมที่จะเข้าสู่เวทีตลาดโลก